“น้ำพริกสดเพื่อสุขภาพ” อาหารสำหรับคนยุค 4.0
คงปฏิเสธไม่ได้ว่ายุค 4.0 นี้คนเริ่มหันมาสนใจอาหารClean และสุขภาพกันมากขึ้น จาก http://xn--12c1cpu7eo7l6a.com/health-benefits.html กล่าวว่า การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ รวมถึงการอดอาหาร เป็นภัยร้าย การศึกษาขององค์การอนามัยโลก พบว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของโรคมะเร็งมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับการอดอาหาร
กระทรวงสาธารณะสุขจึงได้ตัดสินใจในการสนับสนุนน้ำพริกแทนการอดอาหาร เนื่องจากในน้ำพริก 1 ถ้วยมีส่วนผสมของสมุนไพรกว่า 100 ชนิดน้ำพริก มีส่วนผสมของสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีส่วนประกอบทั่วไป คือ พริก กระเทียม หอมแดง กุ้ง น้ำปลา และปลาร้า ข่า ตะไคร ใบมะกรูด “”น้ำพริก สามารถเพิ่มการสร้างเซลล์กำจัดเชื้อโรคได้อย่างเป็นธรรมชาติ ส่งเสริมระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบการหายใจให้ดีขึ้น ซึ่งช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน”
เรามาดูคุณประโยชน์อันทรงคุณประโยชน์ของส่วนประกอบในนำพริกกัน
คุณประโยชน์และสรรพคุณของ “ขมิ้น”
1. ขมิ้นชันช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โดยจะยับยัั้งการเติบโตและการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งเม็ดเลือดขาว และมีบทบาทสำคัญในการต่อต้านโรคที่มีสาเหตุมาจากความเสื่อมของร่างกาย
2. ขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ โดยในขมิ้นชันมีสารสำคัญที่มีฤทธิ์ในการลดอาการอักเสบและสามารถลดความเจ็บปวดที่รุนแรงให้เบาลงได้ทุกชนิด ที่เห็นเด่นชัดคือมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการอักเสบของโรคข้อเข่าเสื่อมและโรคไขข้ออักเสบ
3. การกินขมิ้นชันเป็นประจำจะช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ ช่วยในการขับลม ทำให้ระบบการขับถ่ายเป็นปกติ และยังช่วยทำความสะอาดลำไส้ ไม่ให้มีขยะตกค้าง ซึ่งจะส่งผลให้ไม่เกิดแก๊สพิษที่เป็นสาเหตุของกลิ่นตัว ป้องกันการเกิดโรคริดสีดวงทวารด้วย
4. ขมิ้นชันช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร โดยสารสำคัญคือน้ำมันหอมระเหยจากขมิ้นชัน แถมป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี
5.ประโยชน์ของขมิ้นชัน รักษาอาการท้องเสีย ตามตำรายาพื้นบ้านขมิ้นชันสามารถช่วยรักษาอาการท้องเสียและอุจจาระร่วง
6. ขมิ้นชันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ลดโอกาสการเกิดโรคได้หลายชนิด และภูมิคุ้มกันที่ดียังทำให้สุขภาพของผิวหนังแข็งแรงตามไปด้วย
7. สรรพคุณขมิ้นชันลดคอเลสเตอรอล จากการวิจัยยืนยันว่าการกินอาหารที่มีขมิ้นเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย จะช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลในร่างกายได้
8. ขมิ้นชันมีฤทธิ์ช่วยในการขับและกระตุ้นการสร้างน้ำดี โดยน้ำดีนั้นมีบทบาทสำคัญในการช่วยย่อยอาหารและดูดซึมอาหารในร่างกายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง
9. ประโยชน์ของมิ้นชันบรรเทาอาการของโรคเบาหวานได้ เพราะในขมิ้นชันสามารถควบคุมระดับของอินซูลินให้เหมาะสม
10. ขมิ้นชันมีส่วนช่วยเพิ่มการไหลเวียนของน้ำดี ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการสลายไขมันในอาหาร ส่งผลดีต่อคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรืออยากลดน้ำหนัก
11. ขมิ้นชันมีประโยชน์ต่อตับ บำรุงตับ และป้องกันตับอักเสบ ช่วยขจัดสารพิษต่างๆ ในตับ อย่างการกินยาพาราเซตามอลมากเกินจนอาจไปทำลายตับได้
12. ขมิ้นชันช่วยบำรุงปอด ให้มีสุขภาพดีและแข็งแรง ลดอาการของโรคภูมิแพ้ทางจมูกที่หายใจไม่สะดวก ให้หายใจได้สะดวกขึ้น
13. สรรพคุณของขมิ้นชันช่วยบำรุงหัวใจ การกินขมิ้นชันอย่างสม่ำเสมอยังส่งผลดีต่อคนที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ระบบต่างๆ เกี่ยวกับหัวใจจะแข็งแรงขึ้น
14. ขมิ้นชันมีฤทธิ์ในการช่วยบำรุงสมอง โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของออกซิเจนให้ดีขึ้น จึงช่วยชะลอและป้องกันโรคความจำเสื่อม
15. ขมิ้นชันช่วยดูแลกระเพาะปัสสาวะให้แข็งแรง ลดปัญหากลั้นปัสสาวะไม่อยู่โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
16. ประโยชน์ของขมิ้นชันต่อหญิงให้นมบุตร ขมิ้นชันมีส่วนช่วยขับน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตรได้
17. ขมิ้นชันช่วยแก้อาการปวดท้อง น้ำมันหอมระเหยในขมิ้นมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้
18. ขมิ้นชันช่วยแก้อาการตกขาว
คุณประโยชน์และสรรพคุณของ “กระเทียม”
1. กระเทียมช่วยป้องกันและรักษาโรคความดันโลหิต
2. กระเทียมช่วยป้องกันโรคมะเร็งและเนื้องอก
3. กระเทียมช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
4. กระเทียมช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
5. กระเทียมบำรุงเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง
6. กระเทียมช่วยขับลม แก้อาการจุดเสียด
7. กระเทียมช่วยถ่ายพยาธิ
8. กระเทียมช่วยป้องกันและรักษาอาการของโรคหวัด
9. กระเทียมช่วยบำรุงผิวพรรณและป้องกันโรคผิวหนังจากเชื้อรา เช่น กลาก เกลื้อน
10. กระเทียม ช่วยสร้างภูมิต้านทางให้ร่างกายและช่วยป้องกันโรคหัวใจ
11. กระเทียม ช่วยรักษาและลดการเกิดสิว
12. กระเทียมช่วยรักษาอาการเยื่อบุจมูกอักเสบและโรคอื่นๆในโพรงจมูก
13. กระเทียมช่วยในระบบไหลเวียนโลหิต ให้โลหิตไหลเวียดีขึ้น
14. กระเทียมมีสรรพคุณช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น
15. กระเทียมมีประโยชน์ในการลดอาการปวดฟันได้
16. สรรพคุณของกระเทียมยังช่วยป้องกันอาการโรคเบาหวานได้
คุณประโยชน์และสรรพคุณของ “ข่า”
1.ข่าช่วยย่อย ช่วยขับลม แก้จุกเสียดแน่นท้อง
2.ข่าแก้ไอ แก้หวัด ลดน้ำมูก แก้หอบหืด ขยายหลอดลม
3.ช่วยระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานได้ดี เป็นยาร้อนทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี
4.ข่าช่วยลดอาการปวด ไม่ว่าจะแก้ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อ ปวดฟัน รำมะนาด ปวดท้อง ปวดท้องประจำเดือน
5.ข่าแก้ปวดแก้อักเสบที่ดีมาก และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง ต้านเนื้องอก
คุณประโยชน์และสรรพคุณของ “ตะไคร้”
1.ตะไคร้ต้านอนุมูลอิสระ
2. ตะไคร้ช่วยลดกลิ่นปาก
3.ตะไคร้ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
4.ตะไคร้ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดและลดไข้
5.ตะไคร้ล้างสารพิษ จากระบบย่อยอาหาร ตับ ไต กระเพาะปัสสาวะและขับออกทางปัสสาวะนั่นเอง ซึ่งก็จะทำให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
คุณประโยชน์และสรรพคุณของ “ใบมะกรูด”
1. ขับลมในลำไส้
2. แก้ความดันโลหิตสูง แก้หน้ามืด ตาลาย และคลื่นเหียน อาเจียน
คุณประโยชน์และสรรพคุณของ “พริก” เผ็ดร้อนเกินตัว
1. พริกช่วยขับลม แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย อีกทั้งช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
2. พริกมีวิตามินเอ จึงช่วยบำรุงสายตา พริกมีวิตามินซีสูง การกินพริกสดๆ จะได้รับวิตามินซีดี 3. ประโยชน์ของพริกช่วยให้อารมณ์ดี เพราะสารแคปไซซินจะไปกระตุ้นสมองส่วนกลางให้หลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารสร้างความสุข เราจึงอารมณ์ดีเมื่อกินพริก และอยากเพิ่มขนาดพริกในอาหารขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นสารเอ็นดอร์ฟินยังมีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน ที่ออกฤทธิ์ทำให้เกิดการผ่อนคลาย ทำให้เราอยากนอนหลับ
4. พริกช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด หายใจไม่สะดวก เพราะในพริกมีสารแคปไซซินช่วยขยายช่องจมูกให้ใหญ่ขึ้น จึงช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง
5. พริกช่วยขับเสมหะ ทำให้เสมหะที่ข้นเหนียวเจือจางลง เราจึงขับออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น
6. สรรพคุณของพริกดีต่อผู้ป่วยโรคหอบหืด เพราะความเผ็ดจะไปทำให้หลอดลมขยายตัวได้ดีขึ้น ไม่หดเกร็ง อาการจึงดีขึ้น
7. พริกมีสารแคปไซซิน ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี แต่เสริมสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี
8. พริกช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดการอุดตันของหลอดเลือด และลดความดันได้ดี
9. การกินพริกเป็นประจำจะช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย ช่วยให้การเผาผลาญดีขึ้น จึงช่วยควบคุมน้ำหนักได้
10. พริกช่วยบรรเทาอาการปวด เช่น ช่วยลดอาการปวดฟัน เพราะสารแคปไซซินจะไปออกฤทธิ์ต่อเซลล์ประสาท ทำให้สมองส่วนกลางรับรู้การเจ็บปวดช้าลง
11. พริกช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เพราะในพริกมีทั้งวิตามินเอ วิตามินซี และโปรตีน
12. ประโยชน์ของพริกช่วยเจริญอาหาร โดยยอดพริกและใบอ่อนของพริกมีรสเผ็ด ช่วยให้เจริญอาหาร เพิ่มน้ำลาย และช่วยขับลมได้
13. ใบพริกขี้หนูสดๆ ช่วยแก้อาการปวดศีรษะจากไข้หวัดหรือตัวร้อนได้ โดยใช้ใบพริกขี้หนูสดมาตำผสมกับดินสอพอง แล้วใช้ปิดบริเวณขมับ
14. พริกมีประโยชน์แก้อาการเจ็บคอ เสียงแหบได้ โดยใช้พริกขี้หนูป่น 1 หยิบมือ เติมน้ำเดือดลงไป 1 แก้ว ทิ้งไว้พออุ่น นำมาใช้กลั้วคอ
คุณประโยชน์และสรรพคุณของ “เมล็ดพริกไทย”
1.สรรพคุณใช้เป็นยาช่วยย่อยอาหาร ย่อยพิษตกค้างที่ไม่สามารถย่อยได้
2.ขับเสมหะ
3.บำรุงธาตุ เจริญอาหาร
4.แก้ท้องอืด แก้ปวดท้อง
5.ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ แก้มุตกิด แก้ลมอัมพฤกษ์
6.ในเมล็ดพริกไทยมีสารไปเปอรีน และสารฟินอลิกส์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีสรรพคุณช่วยป้องกันมะเร็ง และมีฤทธิ์กระตุ้นประสาท
7.บำรุงพลังของไต แก้บิดที่เป็นชนิดเย็น ฆ่าพิษของอาหารพวกปลา ปู เนื้อสัตว์ หรือเห็ด รักษาอาการปวดฟัน
แต่ด้วยกรรมวิธีในการผลิตน้ำพริกในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการอบแห้งหรือการถนอมอาหารทำให้ คุณค่าของสมุนไพรในน้ำพริกหายไป เราจึงควรเลือกทานน้ำพริกที่เป็นน้ำพริกที่ทำสดๆ มีปลา มีกุ้ง มากกว่าการทานน้ำพริกแห้งๆ จึงจะได้คุณค่าที่เป็นยา ทำให้ได้หุ่นที่ดี และสุขภาพที่ดีด้วย ยิ่งในยุค 4.0 เป็นยุคที่เราทุกคนยุ่งมาก จึงควรใส่ใจกับสุขภาพและของที่เราใส่ปากในแต่ละมื้อให้มากขึ้น
การทานของที่มีประโยชน์,ช่วยบำรุงร่างกาย, และมีฤทธิ์เป็นยา ช่วยให้เรารักษาร่างกายที่เราใช้งานในชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานในแต่ละวันจึงสำคํญต่อเราทุกคนและคนที่เรารัก การมีร่างกายที่แข็งแรงทำห้เรามีแรงทำงานที่เรารักและสร้างสรรค์งานใหม่ๆ ด้วยความสุขสดใสทั้งภายในและภายนอก ในปัจจุบันการหานำ้พริกสดไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเหมือนสมัยก่อนที่ต้องทำทานเองที่บ้าน หรือซื้อฝากตามแหล่งท่องเที่ยว เพราะสมัยนี้ความนิยมทำนำ้พริกสดขายมีมากขี้นหาซื้อได้ทั่วไป หรือจะสั่งซื้อonline ก็มีให้สั่งซื้อได้สะดวกแบบ กดปุ๊บส่งปั๊บ เท่านี้เราก็ได้ “สุขภาพดี สะดวก สุขท้อง สมยุค 4.0”
ที่มาบางส่วน
-http://www.xn--12cg1cxchd0a2gzc1c5d5a.net/ประโยชน์ของกระเทียม-สรรพคุณของกระเทียม/
-http://sukkaphap-d.com/14-สรรพคุณประโยชน์ของพร/
-https://www.karatbarsaec.com/พริกไทย-สรรพคุณ-ประโยชน์/
-http://sukkaphap-d.com/24-สรรพคุณประโยชน์ของขม/